วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2567

ฝันเห็นญาติที่เสียชีวิตแล้ว มาหา หรือ

 ฝันถึงญาติพี่น้องคนรู้จัก

ทำนายฝันว่า ในช่วงนี้จะได้รับข่าวดีจากแดนไกล มีลาภลอยและโชคลาภเล็กๆ น้อยๆ แต่ให้ระวังอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นในบ้าน จะทำอะไรให้ใช้สตินำทาง

ฝันเห็นญาติพี่น้องฝ่ายพ่อ
ทำนายฝันว่า การงานจะเจริญก้าวหน้า ได้เงินเดือนเพิ่มขึ้น ได้เลื่อนตำแหน่ง หากใครทำธุรกิจก็จะค้าขายได้กำไรดี

ฝันเห็นญาติพี่น้องฝ่ายแม่
ทำนายฝันว่า ความสัมพันธ์ในครอบครัวจะแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น อย่าลืมใส่ใจญาติผู้ใหญ่ในครอบครัว หาเวลาดูแลคุณแม่ให้มากขึ้น

ฝันเห็นญาติพี่น้องรวมตัวกัน
ทำนายฝันว่า เรื่องที่กังวลใจมานานจะผ่านพ้นไปด้วยดี ใครที่เก็บความเครียดและความกดดันไว้ ปัญหาต่างๆ ก็จะเริ่มคลี่คลายได้ ความรักใคร่กลมเกลียวในครอบครัวจะเป็นพลังสำคัญให้คุณก้าวผ่านอุปสรรคไปได้

ฝันเห็นญาติพี่น้องมาหาที่บ้าน 
ทำนายฝันว่า เพื่อนที่ห่างหายไปนานจะติดต่อมาหา ญาติที่อยู่ห่างไกลก็จะมาหาที่บ้าน หรือจะส่งข่าวคราวมาให้ ความฝันนี้ยังสื่อถึงการได้พบผู้คนใหม่ๆ อีกด้วย  

ฝันเห็นญาติพี่น้องบ้านเก่า
ทำนายฝันว่า ช่วงนี้คุณกำลังคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านพ้นไปแล้ว แต่ไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้ คิดมากๆ อาจทำให้มีภาวะเครียดและวิตกกังวลตามมา ควรมีสติและแก้ปัญหาอย่างเต็มที่ พยายามมองเป้าหมายข้างหน้า และเสียใจถึงสิ่งที่ผ่านพ้นไปแล้ว

ฝันเห็นญาติที่เสียชีวิต
ทำนายฝันว่า หากฝันเห็นปู่ ย่า ตา ยาย ทวด หรือบรรพบุรุษที่เสียชีวิตไปแล้ว ทายว่าจะได้ลาภเป็นทรัพย์สินที่มีค่า แต่หากฝันเห็นญาติพี่น้องที่เพิ่งเสียชีวิตไป แนะนำให้ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ญาติที่ล่วงลับไปแล้ว

ฝันเห็นญาติพี่น้องนอนเรียงกัน
ทำนายฝันว่า ให้ระวังการทะเลาะกันภายในครอบครัว เนื่องจากคำพูดที่สร้างความเข้าใจผิดและกระทบจิตใจซึ่งกันและกัน แนะนำให้ใจเย็นๆ อย่าวู่วาม และใช้เหตุผลหันหน้าคุยกัน

ฝันเห็นญาติพี่น้องนั่งกินข้าว
ทำนายฝันว่า สำหรับใครที่ฝันว่าฝันเห็นญาติพี่น้องมากินข้าวที่บ้าน ช่วงนี้อาจมีภาระค่าใช้จ่ายที่ต้องแบกรับค่อนข้างเยอะ ต้องวางแผนเรื่องการเงินดีๆ จะได้ไม่มีปัญหาหนี้สินตามมาในภายหลัง


วันอังคารที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2566

พิศวาสรักพญานาคราช

 

 

พิศวาสรักพญานาคราช

โดย ธรรมสิริ

∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞

 

“ช่วยข้าด้วย ช่วยข้าด้วย”

เสียงตะโกนขอความช่วยเหลือสุดวิเวกวังเวง ดังก้องเข้ามาในหู ทำให้คนที่ได้ยินขนลุกซู่ไปทั้งตัว

“ช่วยข้าด้วย ช่วยข้าด้วย สิริภัทรนาคี ช่วยข้าด้วย”

นทีตกใจอีกครั้ง สิ่งที่เขาได้ยินไม่ใช่หูแว่วแน่นอน และดูท่าคงจะมีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่ได้ยิน

"แม่ครับ...ข้างหน้ามีอะไรนะ จอดรถก่อนได้ไหมครับ"

นทีพูดขึ้นมา เมื่อมองไปข้างหน้า มีผู้คนจำนวนมากกำลังมุงดูอะไรบางอย่างอยู่....

“นที..แม่ว่าเราอย่าไปยุ่งเลยนะลูก”

“แม่ครับผมอยากลงไปดู เผื่อจะได้ช่วยอะไรเขาได้บ้าง นะครับแม่”

“นะครับแม่..นะครับผม”

อะไรบางอย่างบอกให้ นที ต้องหยุดดูให้ได้ ว่าเกิดอะไรขึ้น

 

ก็ได้ แต่นทีห้ามทำอะไรบุ่มบามนะลูก ในนั้นอาจมีมิจฉาชีพก็ได้

 

ครับผม

 

เดี่ยวแม่บอกน้า ให้จอดด้วยดีกว่าผู้เป็นแม่กดโทรศัพท์หาใครสักคน ก่อนจะมองไปข้างหน้า

มีคนจำนวนหนึ่งกำลังมุงดู...อุบัติเหตุรถยนต์เสียหลักชนต้นไม้ข้างทาง เธอไม่อยากให้ลูกชายลงไปดูภาพที่สะเทือนตา ติดตา ไม่รู้ว่ามีใครเป็นอะไรหรือเปล่า

 

แม่ว่าอย่าลงเลยนะลูก แม่ว่ามันอันตรายเกินไป ดูสิ รถเละซะขนาดนั้น แล้วคนละ

“ช่วยข้าด้วย ช่วยข้าด้วย สิริภัทรนาคี ช่วยข้าด้วย”

 

แม่ครับ..

อยู่ๆ รถก็ดับวูบไปเฉยๆ เครื่องยนต์หยุดทำงานอย่างกะทันหัน โดยที่ขวัญฤดีเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเพราะอะไร

“อะไรเนี้ย รถเป็นอะไรอยู่ๆก็ดับ”

ทันทีที่รถจอด นที บุตรชายของเธอก็เปิดประตูรถออก แล้ววิ่งพรวดไปยังกลุ่มไทยมุงดูอุบัติเหตุที่มีผู้คนนับสิบมุงดูอยู่

 

..

 

และเมื่อเข้าไปใกล้ๆ ก็แปลกใจ ไม่มีใครได้รับบาทเจ็บอะไรเลย

 

เด็กหนุ่มมองไปที่รถกระบะในสภาพที่ชนต้นไม้จนแทบจะหักล้มลงไป และรถก็แทบไม่เหลือสภาพที่ดีเลย

 

แล้วผู้คนมุงดูอะไรนะ

 

กระบะหลัง...มีกรงเหล็กมากมาย ... เมื่อเข้าไปใกล้มากขึ้นก็แทบผงะ .. งูจำนวนมากหลายพันธ์ถูกขังไว้ในกรงที่นี่ .. น่าสงสารเหลือเกิน

 

"ป้าคะ" มีใครเป็นอะไรหรือเปล่าค่ะ  " 

ขวัญฤดีถามหญิงวัยกลางคนที่กำลังยืนดูอยู่ด้วยท่าทางหวาดกลัว แต่ก็ไม่ยอม….ไม่หนีไปไหน

“ไม่มีใครเป็นอะไรเลยสักคนเดียว คนขับน่าจะวิ่งหนีไปแล้ว”

“แล้วป้าดูอะไรกันค่ะ”

“ก็นู้นไงนังหนู..เห็นไหมนั่นนะ”

ขวัญฤดีมองไปยังสิ่งที่ทอแสงประกายวาววับราวกับทองคำหลายกิโลกรัม เพียงแต่ขยับเขยื้อนไปมาได้

"งูทอง"  เธออุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ

 

งูทองเหรอ .... เป็นยังไงนะ

 

"ใช่แล้ว..ป้าเกิดมาก็พึ่งเคยเห็นงูที่สวยแบบนี้...งูเห่าตัวหนึ่ง ลำตัวสวยมาก .. เกร็ดของมันระยิบระยับ..ราวกับเป็นทองคำยังไงยังงั้นละจ๊ะนังหนู ดูสิ สวยเหลือเกิน....ต้องไม่ใช่งูธรรมดาแน่นอน ต้องเป็นงูวิเศษแน่ๆ"

 

ชาวบ้านกลุ่มหนึ่ง ก้มลงกราบงูตัวนี้  แล้วพูดภาษาอะไรก็ไม่รู้... ราวกับภาษาที่ว่านั้นเป็นภาษาที่ใช้สำหรับสะกดงูนั่นเอง หรือไม่ก็บูชางู หรืออะไรนี่แหละ ขวัญฤดีเองก็ไม่เข้าใจ

เธอมองไปหาบุตรชายของเธอที่ยืนอยู่ไม่ห่างนัก แต่ตอนนี้ไปไหนแล้วก็ไม่รู้

“นที”

“นที มาหาแม่เดี่ยวนี้ลูก..นที”

ทำไมต้องสะกดมันด้วยครับ มันเจ็บปวดทรมานนะครับ

นที เดินไปปัดมือของชายแก่คนหนึ่งออก ที่กำลังทำพิธีอยู่ ...จนธูปเทียนที่อยู่ในมือของชายคนนั้นกระเด็นกระดอนกระจัดกระจายเต็มไปหมด

 

อ้าว มาทำลายพิธีของข้า เดี่ยวงูปีศาจก็จะออกอาละวาดหรอก ไอ้หนู

สัตว์ทุกชนิดมันจะออกไปอาละวาดได้ยังไง ถ้าไม่มีใครไประรานมัน...ที่งูมันออกอาละวาด เพราะมีคนไปรบกวนมันต่างหากละครับ

เด็กน้อยพูดขึ้นมาด้วยความรู้สึกโมโห พร้อมกับหันหน้าไปหางูนับไม่ถ้วน ที่ถูกขังอยู่

“เจ้างูเอ๋ย ผมจะช่วยเองนะ แต่สัญญากับผมก่อนว่าจะไม่ทำร้ายชาวบ้านพวกนี้”

“ว่าไง สัญญากับผมก่อนสิ”

 

นทีพูดกับงู ราวกับกำลังคุยกับเพื่อนฝูง ทำเอาทุกๆคนที่อยู่ในนั้นตกใจเป็นอย่างมาก

 

น้ำ มานี่สิลูก

 

น้ำจะไปไหน อย่าลูก อย่า

 

ขวัญฤดี ตกใจมากกว่าเดิม เมื่อบุตรชายของเธอ อยู่ๆ ก็เดินเข้าไปใกล้งูตัวสีทองนั้นมากขึ้นมากขึ้น ... เร็วไปกว่านั้น ... เด็กชายวัย 4 ขวบ เปิดดึงกรงนั้นออก...แต่ด้วยแรงดึงยังมีไม่มากพอ กรงจึงเปิดไม่ออก

 

"น้ำ ... ออกมาเดี่ยวนี้ ... น้ำออกมา"

 

หัวอกคนเป็นแม่ แทบจะวิ่งกรูเข้าไปหาบุตรชาย แต่ถูกชาวบ้านกันเอาไว้ซะก่อน

 

"น้ำ... ออกมาสิลูก ... งูมันจะกัดเอา"

 

เมื่อกรงเหล็กที่ขังงูเห่ายักษ์สีทองเปิดไม่ออก เด็กน้อยวัยสี่ขวบ ก็จัดการเปิดกรงอื่นๆทันที ... งูจงอางขนาดใหญ่ เลื้อยออกมาจากกรงขัง เลื้อยผ่านขาน้อยๆ ของนที ก่อนจะ เลื้อยออกไปทางชาวบ้านที่มุงดูอยู่

 

เหล่าบรรดาชาวบ้านต่างพากันหนีงูจงอางตัวนั้นด้วยความตื่นกลัว หากว่ามันกัดเข้า มีหวังเตรียมเผาสถานเดียว.. รวมทั้งขวัญฤดีที่ขยับถอยหนี แต่ก็ไม่หนีไปไหน ด้วยความที่เป็นห่วงลูกชาย

แต่ก็ตกใจไปมากกว่านั้น เมื่องูจงอางขนาดใหญ่ แผ่แม่เบี้ยชูคอผงาดขู่ฟู่ๆ ต่อหน้าเธอ

ขวัญฤดีไม่ได้ห่วงตัวเองเลยสักนิดเดียว เธอห่วงแต่ลูกชายของเธอเท่านั้น

“อย่านะ ... นั่นแม่ของผม สัญญาแล้วไงว่าจะไม่ทำร้ายคนอีก ไปสิ ..บอกให้ไปไง”

นทีพูดกับงูจงอางตัวนั้น

และน่าประหลาดใจ งูตัวนั้นค่อยๆ คลายแม่เบี้ยลง และเลื้อยออกไป

"น้ำ... ออกมาเดี่ยวนี้ .. .น้ำ"

 ขวัญฤดีเข่าอ่อนทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้น น้ำตาไหลออกมาด้วยความเป็นห่วงบุตรชาย 

 

"น้ำ.. ทำอะไรลูก... มาหาแม่สิลูก ..."

 

"น้ำไม่ไป... น้ำสงสารมัน... มันอยากกลับบ้าน"

 

"น้ำ"

 

"น้ำไม่ไป น้ำจะช่วยมัน"

 

นที พยายามแกะสลักเปิดกรง งูเห่าสีทองให้ได้

เขาใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก...

และก็สำเร็จในที่สุด

 

เจ้าเป็นอิสระแล้วนะ อย่าดื้ออีกละ เดี่ยวจะถูกขังอีก ไปได้แล้ว  นทีพูดด้วยเมตตาจิต

 

งูตัวนั้นค่อยๆ เลื้อยออกมา ชาวบ้าน เจ้าหน้าที่กู้ภัย เจ้าหน้าที่ตำรวจต่างตกตะลึงกับลำแสงที่เปล่งประกายออกมาจากตัวของงูตัวนี้ ....

แสงสีทองอร่าม สว่างสดใสไปทั่วพื้นที่

“งูเห่าตัวนั้นแผ่แม่เบี้ยใส่เจ้าหนูนั้นทำไม”

“นที”

 ในขณะนั้น...นทีเองก็สลบลงไปกองที่พื้น

 

น้ำ ... น้ำ อย่าเป็นไรนะลูก

 

ขวัญฤดีวิ่งเข้าไปกอดบุตรชาย เพราะคิดว่าลูกถูกงูกัด แต่เมื่อสำรวจไปที่เนื้อตัว พบว่า ไม่มีร่องรอยอะไรเลย

 

เธอมองไปที่งูสีทองตัวนั้นที่เลื้อยไปช้าๆ ราวกับอาลัยอาวรณ์ไม่อยากจากไปยังไงยังงัน

 

 

แต่ที่น่าแปลกใจคือ งูตัวนี้ค่อยๆ ตัวใหญ่ขึ้น ตัวใหญ่มากขึ้น มากขึ้นจนลำตัวใหญ่เท่าต้นตาล

“พญานาค”

“พญานาคจริงๆด้วย”

ชาวบ้าน ต่างยกมือไหว้ เป็นการใหญ่

และงูตัวนั้นก็เลื้อยไปอย่างรวดเร็ว และเลือนหายไปในพริบตา

 

ตอนที่ 2

สายลมพัดอ่อนๆ แต่เย็นยะเยือกราวกับเป็นสายลมที่พัดไอเย็นจากภูเขาน้ำแข็งยังไงยังงัน ...

 

 นที หนุ่มวัย 18 ปี กำลังนั่งเล่นอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่งที่ตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่าที่นี่ที่ไหน รู้แต่ว่า ที่นี่คุ้นตาเหลือเกิน

 

ราวกับว่าเขาเคยอยู่ที่นี่มานานแสนนาน

มวลน้ำขนาดใหญ่ผุดขึ้นมาจากหนองน้ำ ดังจ๊วบๆ

นทีหันไปหาเสียงนั้นทันที

.

 

อยู่ๆจากมวลน้ำขนาดมหิมานั้นก็ค่อยๆสลายไปกับพื้นพสุธา พร้อมๆกับ การปรากฏตัวขึ้นมาของชายคนหนึ่ง... และคนคนนั้นก็ชำเลืองมองมาที่ตัวนทีไม่ยอมกะพริบตา

 

"ข้ารอมานานแสนนาน ที่จะได้มาเจอเจ้า สิริภัทร”

“คุณเป็นใคร”                               

“เจ้าจำข้าไม่ได้รึ”

นทีเอามือกุมศีรษะ และขยับตัวถอยหนีไปพร้อมๆกัน

“คงเป็นเพราะคำสาปของท่านพ่อแน่ๆ ..ข้าจะทำให้เจ้าจำข้าได้เอง”

พูดจบบุรุษหนุ่มรูปงามคนนั้นก็พนมมือไหว้หลับตา

แล้วพูดพึมพำภาษาอะไรก็ไม่รู้

นที มองไปยังบุรุษหนุ่มคนนั้น ... แค่แวบแรกก็รู้สึกเหมือนว่าสองเราเคยผูกพันธ์กันมาหลายร้อยชาติ

 

"ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าจากข้าไปไหนอีก" ชายคนนั้นพูดไว้ สีหน้าจริงจังที่สุด

 

นที ยิ้มให้กับชายคนนั้นด้วยความเอียงอาย ... แล้วทุกอย่างก็หายไป

 

.

 

.

 

เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นมา.. จากหัวเตียงนอน

 

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นทีฝันอะไรแบบนี้ เป็นครั้งที่เท่าไรก็ไม่สามารถนับได้

 

ฝันเห็นคนเดิมๆ คนคนนั้น ตลอดในช่วงปีนี้

 

มันคืออะไรนะ

 

คนเราจะสามารถฝันถึงคนคนหนึ่งได้ ในความฝันลักษณะเดียวกัน ได้ด้วยหรือเปล่านะ

 

เด็กหนุ่มได้แต่คิดในใจ และไม่เอามาเป็นประเด็นอะไรมากมาย ... เพราะนี้มันยุค 2020 แล้ว นินา

“แม่ครับผมไปโรงเรียนก่อนนะครับ”

“ค่ะลูกน้ำ ตั้งใจเรียนนะลูก”

“ครับผม”

-เรียนหนังสือ

-พักเที่ยง

-เรียนภาคบ่าย

-เย็นออกกำลังกาย

-ทำการบ้าน

-เข้านอน

 

.

.

.

.

.

“ฝันดีครับแม่ เดี่ยวผมไปนอนละ”

“ฝันดีค่ะลูก”

ทุกๆอย่างที่นี่ดูเงียบสงบ แต่ก็มีความสุขที่ได้อยู่ที่นี่ โดยเฉพาะการได้อยู่กับคนที่เรารักสายลมพัดอ่อนๆ แต่เย็นยะเยือกราวกับเป็นสายลมที่พัดไอเย็นจากภูเขาน้ำแข็งยังไงยังงัน ... เอะทำไมมันเหมือนคุ้นๆจัง

 

 นที  นฤบดินทร์ หรือ น้ำ ..กำลังนั่งเล่นอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่งที่ตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่าที่นี่ที่ไหน รู้แต่ว่า ที่นี่คุ้นตาเหลือเกิน

 

ราวกับว่าเขาเคยอยู่ที่นี่มานานแสนนาน

ที่แห่งนี้เป็นที่เขาเคยเล่น เคยมีความสุขอยู่กับใครสักคน

“น้องรักของข้า”

“น้องรักของข้า ข้ามาแล้ว”

สักครู่หนึ่ง. แสงสีทองก็สว่างขึ้นมา..อยู่ๆ ก็มีชายคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นมา และยืนอยู่หลังนที ... และคนคนนั้นก็ชำเลืองมองมาที่ตัวนทีไม่ยอมกะพริบตา ..นทีรู้สึกได้

 

และเหมือนเดิมคือคุ้นหน้าคุ้นตาเหลือเกิน

 

แต่นทีพยายามนึก แต่นึกเท่าไรก็นึกไม่ออก ว่าบุรุษหนุ่มคนนี่คือใคร

 

"ข้ารอมานานแสนนาน ที่จะได้มาเจอเจ้า ข้ามีความสุขเหลือเกิน"

 

นที หันหน้ามองไปยังบุรุษหนุ่มคนนั้น ... รูปงามแข็งแรงยิ่งนัก...แค่แวบแรกก็รู้สึกเหมือนว่าสองเราเคยผูกพันกันมาหลายร้อยชาติ

 

"ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าจากข้าไปไหนอีก เป็นอันขาด สิริภัทรนาคีสุดที่รักของข้า"

 

บุรุษหนุ่มรูปงาม ผิวกายดั่งทอง คนนั้นพูดไว้ สีหน้าจริงจังที่สุด

 

"ท่านเป็นใครรึ"

 

เจ้าจำข้าไม่ได้หรอกรึ ไม่เป็นไร ข้าจะทำให้เจ้าจำข้าได้เองสิริภัทรนาคีสุดที่รักของข้า"

 

ได้ ข้าเองก็อยากรู้ว่าข้าคือใคร

 

นทีพูดจบก็ ยิ้มให้กับชายคนนั้นด้วยสงสัย และเคารพนับถือบุรุษหนุ่มรูปงาม ผิวกายดั่งทองคนนี้เหลือเกิน รู้สึกพิสมัยห่วงหา... แล้วภาพทุกอย่างก็หายไป

 

.

 

.ติ๊กๆๆๆๆ ติ๊กๆๆๆๆๆ ติ๊กๆๆๆ

 

เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นมา.. จากหัวเตียงนอน

 

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นทีฝันอะไรแบบนี้ แต่เป็นครั้งที่เท่าไรก็ไม่สามารถนับได้

 

ทำไมฝันแปลกๆ

 

ฝันเห็นคนเดิมๆ คนคนนั้น ตลอดในช่วงปีนี้ ฝันแล้วฝันอีก

ฝันซ้ำๆ

กับคนเดิมๆ

ที่เดิมๆ

ทำไมนะ

ทำไม

 

 

มันคืออะไรนะ

 

คนเราจะสามารถฝันถึงคนคนหนึ่งได้ ในความฝันลักษณะเดียวกัน เป็นปีๆ ติดต่อกันได้ด้วยหรือเปล่านะ

 

เด็กหนุ่มได้แต่คิดในใจ แต่ไม่เอามาเป็นประเด็นอะไรมากมาย ... เพราะนี้มันยุค 2020 แล้วนิ

 

.

 

.

 

นที... เด็กหนุ่มวัย 18 ปีบริบูรณ์ บุตรชายคนเดียวของขวัญฤดี ของบ้านนฤบดินทร์

 

ซึ่งตระกูลนี้เป็นตระกูลที่ร่ำรวยมากมายเลยทีเดียว ชนิดที่ว่าไม่ต้องทำมาหากินอะไรก็อยู่อย่างสบายๆ เป็นสิบๆ ชาติ

 

.

 

นทีตื่นขึ้นมาแต่เช้าตรู่ มาทำบุญเนื่องในวันคล้ายวันเกิด... อายุครบ 18 ปีบริบูรณ์ของเขา

 

มารดาของนที เปรมชัย และแฟนของเปรมชัยเองก็ร่วมเดินทางไปทำบุญในครั้งนี้ด้วย

 

เด็กหนุ่มรีบลุกขึ้น บิดกายไปมาให้หายเมื่อย มันรู้สึกเพลียเหลือเกินราวกับไปทำอะไรมาทั้งคืนเลยนะ

 

เห้ย ทำไมเราเปียกไปหมดทั้งตัวเลย

 

นที จับไปที่เตียงนอนที่เปียกชื้นไปด้วยน้ำ

“หรือว่าฝันจะเป็นจริง”

แต่ว่า

นทีไม่อยากจะเชื่อในเรื่องเหล่านี้เลย

หรือบางทีอาจจะเป็นแบบนี้ก็ได้

เราฉี่รดที่นอนหรอกมั้ง แย่จัง โตละยังฉี่รดที่นอนอีก

.

“น้ำ..น้ำเอ้ย..ตืนยังลูก”

เสียงเจือยแจ้ว ดังมาจากข้างล่าง

“ตื่นแล้วครับ”

น่าจะเป็นมารดาของเขา และน้าๆ ที่มาเตรียมสังฆทาน ไปทำบุญตั้งแต่เช้าตรู่เหมือนกัน

ได้เวลาออกไปทำบุญเสริมกุศลผลบุญกันแล้ว ไปกันเลย

วันจันทร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2563

ท้องกับ พญานาค?

เมื่อก่อนเราเองก้อไม่ได้สนใจเรื่องพยานาคเลยน่ะค่ะ รู้จักก้อจากหนังจักรๆวงๆ ตอนเช้าๆ
...แต่ตัวเราจะไปชอบทางพระมากกว่าค่ะ
มีครั้งนึงมีคนผีเข้ามา ไอเราก้อกลัว แต่ก้ออยากดูมากกว่า เลยไปแอบดู 😂😂 แล้วก้อยิ่งชอบ ยิ่งปลื่มพระขึ้นไปอีกเท่าตัว ขนาดที่ว่าอยากจะไปฝากตัวเป็นศิษย์ เรียนวิชาอาคมกันเลยทีเดียวค่ะ 555 แต่ก้อได้แค่คิดแหละค่ะ
การที่เราชื่นชอบพระมากๆ ทำให้เราเจอกับหลังสือเล่มนึง ซึ่งเกี่ยวกับพระเกจิที่เคยพบเจอ”พยานาค” ซึ่งบังเอินเล่มนั้นมีเกจิที่ชื่นชอบอยู่ด้วย เลยหยิบมาอ่าน 555
แต่เรื่องราวที่เกี่ยวกับพยานาคมันเกิดขึ้นกลังจากที่ไปเปลี่ยนชื่อมา ชื่อเก่าพระตั้งให้ แต่แม่พาไปเปลี่ยน (ช่วงอายุ 16) หลังจากเปลี่ยนชื่อมาก้อมีโอกาสไปช่วยงานที่วัดวัดนึงแถวบ้าน แล้ววัดนั้นมีถ้ำแบบเราก้อชอบไม่รู้เป็นอะไรกับถ้ำนักหนา แบบรู้สึกว่าเย็นสบายเงียบสงบดี ถึงที่วัดนั้นมีรูปปั้นฤาษีอยู่องค์นึง ไอเราก้อไปยืนดูแบบรู้สึกชอบขึ้นมา แต่ก้อไม่ได้อะไรมากมาย คืนนั้นเอง...ฝันประหลาดครั้งแรกก้อมา......(จะบอกว่าเราเกิดและอาศัยอยู่ในเขตปกครองของพ่อตาเสือ)
เราฝันว่า... ยืนอยู่ที่ทุ่งหญ้ากว้างๆ ด้านหน้ามีภูเขาลูกนึง มีพยานาคออกมาจากภูเขาแล้วเหาะรอบภูเขา แล้วก้อตรงเข้ามาหาเรา
จากนั้นพยานาคก้อกลายเป็นชายแก่นุ่งขาวห่มขาว หน้าตาดูใจดี เดินตรงเข้ามาพร้อมยื่นห่อผ้าในมือมาให้ เราก้อรับมาน่ะค่ะ แล้วชายคนนั้นก้อยิ้ม แบบดูอบอุ่นมากเลยค่ะ จากนั้นชายคนนั้นก้อหายไป เราก้มมองดูในมือตัวเอง ตกใจมากค่ะ ในมือคือเศียรพ่อแก่ค่ะ เราตกใจตื่นนั่งคิดทบทวนดูสงสัยน่าจะเพ้อไปอ่ะค่ะ หลังจากนั้น2-3 วันก้อไม่เล่าให้คนแก่ๆ ฟัง เค้าบอกว่า พ่อตาเสือที่รู้จักกันคือท่านเป็นฤาษีบำเพ็ญเพียรอยู่ในถ้ำ เวลาท่านจะลงมาช่วยเหลือลูกหลาน ท่านจะแปลงกายมาเป็นเสือโคร่งตัวใหญ่ และบางทีก้อแปลงกายเป็นพยานาค
นอนขดอยู่ในถ้ำ 🥴เรานี่แบบขนลุกซู่เลยค่ะ
แล้วเชื่อมั้ยค่ะหลังจากนั้น1 อาทิต ก้อเกิดเรื่องไม่ดีมากๆ กับตัวเราค่ะ แล้วทุกครั้งที่ฝันเห็นพยานาค ก้อรู้ได้เลยว่านั้นคือฝันเตือน
ผ่านไป4 ปี มีเหตุให้ต้องมาทำงานที่เกาะแห่งนึง ไม่รู้ว่าเพราะอะไร มาแบบงงๆด้วยความเร็วแสงเลยค่ะ 😂😂
ทำงานได้อาทิตนึง มีพระธุดงค์ มาที่เกาะรูปนึง ด้วยความที่ชื่นชอบและศรัทธาหลวงปู่มั่นและพระสายปฏิบัติของหลวงปู่ เราจึงอยากไปไหว้เพื่อความสิริมงคล แล้วช่วงนั้นท่านอยู่ที่โรงเจแห่งนึงบนเขา ไปเอาก้อไม่เคยเข้าโรงเจกับเค้าส๊ะด้วย แต่ก้ออยากไป เลยให้น้องที่เค้าอยู่บนโรงเจพาไป แล้วหลังจากนั้นก้อขึ้นไปทุกเย็นไปออกกรรม ไปสวดมนต์ ทำวัดเย็นกับพระอาจารย์ จนถึงขั้นที่ว่าไปช่วยงานในโรงเจเวลาที่คนนู้นคนนี้องค์ลงกัน (ไม่รู้ว่าเรียกอะไร ไม่ว่ากันน่ะค่ะ) ช่วงนั้นก่อนเค้าจะกินเจกันอ่ะค่ะ
ช่วงนั้นมีข่าวออกมาว่ามีคนปล่อยของมาทำร้ายพระธุดงค์รูปนั้นด้วย ไอเราก้อไม่ได้กลัวน่ะค่ะ รู้สึกว่าอยากปกป้องส๊ะมากกว่า แต่ก้อไม่รู้ว่าจะปกป้องยังไงเหมือนกัน🤣🤣 บนโรงเจมีรูปปั้นงูใหญ่อยู่หลายตัว เราเลยไปยกมือไหว้ขอให้ท่านช่วยคุ้มครองแทน ทำไปทำมาเราท้องแบบงงๆ เฉยเลยค่ะ🤣🤣 แล้วหลังจากนั้นก้อไม่ได้ไปโรงเจนั้นอีกเลย


และเรื่องแปลกๆ ก้อเริ่มมีมากขึ้นหลังจากที่ท้อง อยู่วันนั้นเปิดประตูห้องน้ำออกมาเห็นงูตัวใหญ่สีดำนอนขดอยู่หน้าห้องน้ำ แล้วก้อกลายเป็นควันหายไป บางทีเราไปทำงาน เพื่อนที่ห้องเปิดประตูมาเจองูมานอนขดอยู่ตรงที่ที่เรานอน แต่ไม่ได้ทำร้ายใครน่ะค่ะ พอเค้าเห็นเพื่อนเราเค้าก้อเลื้อยไปในห้องน้ำแล้วก้อหายไปเลย บางทีก้อไปโผล่ที่ทำงานเรา เพื่อนที่ทำงานก้อกลัวกัน แต่ก้อไม่มีใครว่าอะไรเพราะส่วนใหญ่70% พี่ๆเค้าก้อมีของเกือบทั้งนั้น เลยจะได้คำแนะนำมาบ้าง จนเราต้องไปศึกษาเรื่องพยานาค
และได้คำตอบมาว่าส่วนใหญ่พยานาคที่ฝันเห็นบ่อยๆ จะเป็นองค์สีดำ ซึ่งตอนแรกเข้าใจว่าเป็นตระกูลกัณหาโคตมะ เข้าใจแบบนั้นมาเป็นเดือน และนั้นนั้นเองช่วงนั้นท้องได้7 เดือนกว่าๆ เราไม่สบายหนักที่สุดในชีวิต ก่อนนอนก้อสวดมนต์แล้วนอนหานู้นนี่อ่าน เราดันไปเจอเรื่องของพยานาคองค์นึง ซึ่งชื่อว่าพยาภุชงค์นาคราช เราขนลุกซุ่... ซึ่งก้อถือว่าปกติเวลาที่อ่านเรื่องพยานาคหรือเรื่องลี้ลับเรื่องอื่น แต่บังเอิ๊นนนนน ก่อนนอนเราดันขอท่านว่าหากเรามีบุญสัมพันกันขอให้เราหายไข้สักที คือทรมานมากๆ เราอยากหาย และคืนนั้นเอง
เรื่องไม่คาดคิดก้อเกิดขึ้น เรารู้สึกว่าตัวเปียก ตอนแรกคิดในใจว่าเอาแล้วว เยี่ยวใส่ที่นอนอีกแล้ว 🤣🤣 แต่พอลืมตาเท่านั้นแหละ เห็นพยานาค5เศียรกำลังพ่นน้ำใส่ตัวเรา เราตกใจมาก แต่ขยับตัวไม่ได้ ทำอะไม่ได้ได้แต่คิดว่า โอ้ยยยเปี๊ยกขนาดนี้จะเอาที่นอนไปตากยังไง 🥴🥴 อยู่ๆ เหมือนกับว่ามีเศียรนึงหยุดพ่นน้ำ แล้วมองจ้องหน้าแล้วเราก้อหลับไป พอเช้าตื่นขึ้นมาชิบหาแล้วเพื่อนด่าแน่เลยที่นอนเปียกชุ่ม พอลุกขึ้นเท่านั้น ไม่มีอะไรเปียกเลย มันแห้งสนิท แถมไข้ก้อหายเป็นปลิดทิ้งเลยค่ะ แบบงงมาก นั่งมึนอยู่พักนึงค่ะ แล้วก้อคิดได้ว่าน่าจะเป็นเพราะที่เราขอก่อนนอนแน่เลย
เลยคิดได้ว่าพยานาคสีดำที่ฝันเห็นบ่อยๆ มาตลอดแท้ที่จริงแล้วท่านคือใครค่ะ

ผ่านไปเดือนนึง เราก้อใกล้คลอดเต็มที พี่ที่ทำงานก้อถามว่าคิดชื่อลูกไว้บ้างยัง ไอเราก้อบอกว่ายัง ถึงมีพี่คนนึงแกแซวเล่น ว่าให้ชื่อน้องนาคินทร์ เพราะแม่มันชอบพยานาค
เราก้อยิ้มๆ แต่ไม่ได้คิดอะไร เพราะรู้ว่าพี่เค้าพูดเล่น .... และคืนนั้นเอง มาเลยจร้าาาาา ฝันจร้าาาา..... เรายืนอยู่ริมทะเล เห็นพยานาคขึ้นมาจากทะเล ตรงมาหาเรา แล้วแปลงกายเป็นผู้ชาย แต่งกายแบบเหมือนในหนังจักรๆ วงๆ เลยค่ะ มาพร้อมกับลูกแก้วในมือ และเด็กผู้ชาย ซึ่งตอนนั้นเราเองไม่รุ้เพศลูกทีค่ะ เค้าบอกกับเราว่า “ชื่อนั้นนำมาตั้งเป็นชื่อเด็กไม่ได้น่ะ ถ้าตั้งชื่อนั้นปู่จะพาเด็กคนนี้กลับไปอยู่กับปู่” เราก้อได้แต่ยืนทำหน้าเหว๋อๆ แล้วเค้าก้อพูดต่อว่า “ เจ้าเลิกสงสัยได้แล้วว่าเจ้าคือใคร เจ้าคือหลานสาวของปู่ “พร้อมกับชี้นิ้วไปข้างๆ ตังเราแล้วบอกว่า “งูพวกนี้ที่เจ้าเห็นคือบริวารของปู่ บริวารเหล่านี้จะคอยคุ้มครองเจ้า แล้วดวงแก้วนี้ในมือปู่ก้อคือดวงแก้วของเจ้า “ แล้วเสียงนาฬิกาปลุกก้อดัง 🙄🙄 รีบอาบน้ำไปทำงาน แล้ววิ่งไปบอกพี่ที่ทำงานว่า ชื่อที่บอกเมื่อวานอ่ะตั้งไม่ได้น่ะ เค้ามาบอกเมื่อคืน คือทุกคนเงียบกันหมดไม่มีคันพูดอะไรสักคน
และด้วยความสงใสในคำพูดเลยไปถามแม่ว่าตอนท้องเราฝันว่าอะไร แม่ก้อบอกว่ามีคนเอาลูกแก้วสี.... มาให้ ซึ่งก้อตรงกับที่พ่อปู่บอก เราเลยเชื่อขึ้นมาอีกขั้นนึง
แล้ววันเวลาก้อผ่านไปจนกระทั้งวันที่เราจะลาคลอด คืนนั้นเราขึ้นเรือไปกับแฟนจะกลับชุมพร เราฝันว่าเราไม่ได้นั่งเรือ แต่เรานั่งบนหลังพยานาคองค์สีดำนิลตัวใหญ่มาก ว่ายอยู่กลางทะเลมีพยานาคสีดำนิลอีก 2 ตัวตามหลังซ้ายขวา พอพยานาคมาส่งเราถึงฝั่งเราเห็นหางเค้าขาดไป เราเลยเล่าให้แฟนฟัง แฟนเลยตกใจแล้วพูดว่าเมื่อคืนที่เรือวิ่งมาอ่ะ หางเสือมีปัณหาตอนช่วงใกล้ถึงฝั่งพอดี เราก้อได้แต่ขนลุกซู่ไปสิค่ะ
แล้วก้อถึงช่วงใกล้คลอด เราก้อยังชิวๆ แล้วทุกคนเชื่อมั้ยค่ะว่ารู้เราแปลกมาก คือเราพูดอะไรไปได้ตามที่พูดทุกอย่าง ตั้งแต่อยากให้เกิดวันอะไร วันที่เท่าไหร่ ช่วงเวลาประมาณไหน และอื่นๆ ตรงทุกอย่างตามที่เราขอไว้ แม่กระทั้งคำแรกที่พูดได้คือคำว่าวัด ไม่เคยสอน เวลาขับรถผ่านวัดไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืนนางยกมือไหว้หมด แบบเราตกใจมากอ่ะ
หลังจากที่เราครบกำหนดลาคลอด คืนที่จะต้องกลับไปทำงาน ก้อฝันว่ามีงูใหญ่สีดำมาขวางให้ให้เราไป เราพยายามไปอีกทางนึงก้อมีพระองค์ใหญ่มาขวาง แต่เราก้อดื้อ เราจะไปทำงาน ไปทำงานได้2 วัน เจ็บตามาก ทำงานไม่ได้ มองอะไรไม่เห็น อยู่ไม่ได้ เลยตัดสินใจลาออก พอกลับมาอยู่บ้านหายเป็นปลิดทิ้ง 🤣🤣 แบบไม่น่าเชื่อ
ผ่านไปปีกว่าๆ ว่างเลยพาลูกไปเที่ยวเกาะ
อยู่ๆมีคนถามเราว่าลูกนี่ขอมาหรอ เรากับแฟนก้อยืนอึ้งพักนึง แล้วพี่เค้าก้อถามซ้ำว่า ลูกเราอ่ะขอพยานาคมาใช่มั้ย พี่รู้พี่สัมพัสได้ เราเลยบอกไปว่าไม่ได้ขอค่ะ เค้าให้มาเอง😁😁 แล้วก้อนั่งคุยกันพักนึง เลยรู้ว่าช่วงนี้เราไปโรงเจ แล้วเราไปไหว้ขอให้เค้าคุ้มครองนี่เอง 555 เป็นเหตุให้ท้องเลยค่ะจะได้ไม่ต้องขึ้นเขาไปอยู่ แล้วก้อพึ่งรู้ทีหลังด้วยค่ะว่าเพื่อนที่ขึ้นไปกลุ่มเดียวกันถูกของ แต่โชคดีค่ะเราไม่โดนเพราะตอนนั้นท้องเลยไม่ได้ขึ้นไป 😊😊

และช่วงต้นปีมีโอกาสได้ไปแก้บนที่คำชะโนดมา หลังจากบนมาเป็นปีค่ะ แต่บอกท่านตลอดว่าเราไม่ได้ลืม แต่มันยังไม่ลงตัว พอมีโอกาสเลยได้ไป ดีใจมากกกก มีความสุขสุดๆ บอกทั้งทั้งแต่ก่อนไป จนเข้าเขตภาคอีสาน จนถึงจ.อุดร จนเห็นป้ายคำชะโนด และจนถึงทางเข้า 😁😁 ดีใจมากบอกไม่ถูกเลยค่ะ ครั้งแรกด้วยแหละ ทำไปทำมาท่านมาปรากฏกายให้เห็นเบยค่ะ ในบ่อศักดิ์สิทธิ์ค่ะ ไอเราก้อไม่รู้ชะโงกหน้าไปดูเห็นมีพยานาคอยู่ในพ่อ เราก้อคิดว่าสงสัยเค้าทำรูปปั้นจำลองว่าเป็นทางเข้าออกพยานาคเอาไว้ อะไรแบบนี้อ่ะค่ะ 🤣🤣 เลยแอบถ่ายรูปแช๊ะๆ มาดู อ่าว!! ถ่ายรูปไม่ติด ติดไม่ชัด เป็นเงาน้ำแทน เลยชะโงกหน้าดูใหม่ อ่าว!!ก้อยังมีนิหว่า เลยเช็ดเลนกล้อง แล้วถามคนแถวนั้นว่าเค้าทำพยานาคจำลองไว้ในน้ำด้วยหรอค่ะ แต่..เค้าบอกว่าไม่มี เราเลยดูอีกทีเพื่อความชัว สรุปก้อยังมีแถมรอบนี้ขยับได้ด้วย เรารีบออกไปเดินดูวัตถุมงคลด้วยความเร็วแสงเลยจร้า ก่อนที่จะสติแตก 🤣🤣
และหลังจากนั้นมาก้อฝันเห็นเรื่อยๆ องค์สีดำบ้าง สีเขียวบ้าง สีเผือกบ้าง มาบอกนู้นนี่นั้นบาง ทำให้เห็นปราสาทบนฟ้าบ้าง
แล้วก้ออะไรสักอย่างดูคล้ายๆพระธาตุ แต่อยู่บนฟ้า ซึ่งสวยมากกกก
ล่าสุดฝันว่ามีผีมาหลอกแล้วก้อมีพระมาช่วย พระรูปนั้นบอกเราให้ไปบอกน้องชายเรื่องนึง แล้วก้อเรียกชื่อเราแปลกๆ ด้วยชื่อนึง ว่า ”โยมน่ะมีของดีอยู่กับตัวอยู่แล้ว เป็นดวงจิต2ดวง ซึ่งเค้าจะคอยปกป้องโยมน่ะ ...แม่นาง (อะไรสักอย่าง ในฝันจำได้ว่าเป็นชื่อที่ฟังแล้วเย็นๆ เหมือนน้ำ แต่พอตื่นมาจำไม่ได้คิดไม่ออก พูดไม่ได้ไม่รู้ทำไม)
จนเวลาผ่านมาเรื่องๆ และเมื่อวานชื่อนั้นก้อมาอยู่ในหัวเฉยเลย

คือฝันว่าในป่ามีวัดวัดนึงกูเก่าๆ โบราณๆ
มีคนมากมายนั่งอยู่แล้วก้อถกเถียงกันเรื่องความเชื่ออะไรสักอย่าง เราไม่ได้ฟัง อยู่ๆ มีพระองค์นึง มาจากไหนไม่รู้ยิ้มให้เราแล้วบอกว่าเราน่ะสายเดียวกัน เราก้องง พาเราขึ้นไปที่หออะไรสักอย่างแล้วคุยกันนานมากก้อไม่รู้ว่าคุยอะไรกัน แล้วอยู่ๆ เราก้อเก็บเศษกระดาษที่ตกอยู่ตามพื้น เราได้ยินเสียงพระท่านหัวเราะ เราก้อหันไปมองพระท่านก้อยังคงยิ้มแล้วหัวเราะใส่เรา แล้วเราก้อตื่น พร้อมกับชื่อชื่อนึงในหัวที่ไม่รู้มาได้ยังไง ชื่อว่า อัญรินทร์
ไอเราก้อเกิดความสงสัยว่าชื่อใคร เลยไปหาในกูเกิ้ล สรุปว่าเธอมีศักดิ์เป็นหลานสาวของปูภุชงค์และแม่ย่าทองคำ ☺️☺️




วันเสาร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2563

พิษของพญานาค

พิษของพญานาค พญานาคเป็นพญางู เมื่อนึกถึงงูก็ต้องนึกถึงพิษของงู ความน่าเกรงขามของพิษพญานาคใน "คัมภีร์ปรมัตถโชติกพมหาอภิธรรมมัตถสังหฏีกา"ปริเฉทที่ห้า จัดหมู่ของนาคไว้ตามชนิดของพิษแบ่งเป็น 4 จำพวกคือ....
1)พญานาคมีพิษชนิดหนึ่ง ถ้ากัดผู้ใดแล้วร่างกายจะแข็งไปหมดทั้งตัว อวัยวะต่างๆแม้จะยืดหรืองอหรือเหยียดออกไปไม่ได้จะปวดทรมานมาก
2) ปูติมุขพญานาคนี้มีพิษชนิดหนึ่ง ถ้ากัดผู้ใดแล้วแผลจะเน่าเปื่อยมีน้ำเหลืองไหลออกมาตลอดเวลา
3)อัคคิมุข พญานาคนี้มีพิษชนิดหนึ่ง ถ้ากัดผู้ใดแล้วจะเกิดความร้อนไปทั้งตัวและรอยแผลที่ถูกกัดเป็นริ้วรอยคล้ายถูกไปไหม้
4) สัตถมุข พญานาคนี้มีพิษชนิดหนึ่ง ซึ้งผู้ใดโดนกัดแล้วก็เหมือนกับถูกฟ้าผ่า
พญานาคที้งสี่ประเภทนี้ มีวิธีที่จะทำอันตรายด้วยวิธีที่แตกต่างกันดังนี้....
1)ใช้เขี้ยวพิษขบกัดแล้วพิษค่อยแผ่ซ่านไปทั้งตัว
2)ใช้ตามองดูแล้วพ่นพิษออกมาทางตา
3)มีพิษไปทั่วร่างกาย เพียงแต่ใช้ร่างกายกระทบเข้าก็เป็นพิษแผ่ออกมาได้
4)ใช้ลมหายใจพ่นเป็นพิษออกมาและพิษนั้นจะแผ่ซ่านออกไปทั่วร่างกาย

วันพฤหัสบดีที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2563

เฉลยข้อสอบ O-NET คณิตศาสตร์


เครดิต https://coolaun.com/