ตำนานรักอันโศกเศร้าของคนกับพญานาค : เรื่องเล่าขานของบึงโขงกลง จ. บึงกาฬ --
สมัยก่อนบริเวณที่เป็นตัวบึงโขงหลงนั้นไม่ได้เป็นพื้นน้ำ แต่เป็นพื้นดินที่ตั้งเมืองชื่อว่า "รัต พานคร" มีผู้ปกครองนครคือ พระอือลือราชา มีมเหสีชื่อนางแก้วกัลยา มีพระธิดาชื่อ พระนางเขียวคำ (ต่อมาอภิเษกกับพระเจ้าสามพันตา) มีพระโอรสชื่อเจ้าชายฟ้าฮุ่ง ตาม ตำนานเล่าว่าเจ้าชายฟ้าฮุ่ง เป็นผู้มีความเฉลียวฉลาดมีความรอบรู้และมีรูปเป็นสมบัติ ต่อมาเจ้าชายฟ้าฮุ่งได้อภิเษกสมรสกับ นาครินทรานี ซึ่งเป็นพระธิดาของพระยานาคราช แห่งเมืองบาดาล ซึ่งจำแลงแปลงกายเป็นมนุษย์ การจัดงานอภิเษกสมรสได้จัดทำกันใหญ่ โตมโหฬารมากทั้งเมืองรัตพานคร และเมืองบาดาล (7 วัน 7 คืน) เพื่อให้สมกับการแต่งงานอันยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ และเพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธไมตรีระหว่างพญานาคกับพระเจ้าอือลือราชา พญานาคราชได้มอบเครื่องราชกุฎภัณฑ์ซึ่งเป็นของมีค่าประจำตระกูลให้ กับพระเจ้าอือลือราชาในโอกาสนี้ด้วย พร้อมกับฝากฝังลูกสาวของตนให้เมืองรัตพานครดูแล โดยที่ไม่มีใครล่วงรู้ว่านางคือลูกของพญานาคแห่งเมืองบาดาล เจ้าชายฟ้าฮุ่งกับเจ้า หญิงนาครินทรานี อยู่กินร่วมกันมา 3 ปี ก็ไม่สามารถที่จะมีผู้สืบสายโลหิตได้ (เพราะธาตุมนุษย์กับนาคเข้ากันไม่ได้) จึงทำให้เกิดความเศร้าโศกเสียใจกับทั้งสองเป็นอันมาก ซึ่ง ต่อมาทำให้เจ้าหญิงนาครินทรานีล้มป่วยลง ทำให้ร่างกายของนางกลับกลายร่างเป็นนาค ตามเดิม ข่าวนี้แพร่สะพัดไปทั่วกรุงรัตพานคร แม้ต่อมาพระนางจะร่ายมนต์กลับมาเป็น มนุษย์อีกครั้งก็ตาม เมื่อทุกคนทราบความจริงว่านาครินทรานีเป็นนาคประชาชนชาวรัต พานครและพระเจ้าอือลือราชาไม่พอใจอย่างมากจึงได้แจ้งให้พระยานาคราชมารับ ลูกสาวพร้อมขับไล่นางนาครินทรานีกลับคืนสู่เมืองบาดาลโดยไม่ใยดี แม้กระทั่งการจะ ไปส่งด้วยน้ำใจก็ไม่มี ไม่เหมือนกับครั้งที่นางมาในพิธีอภิเษกสมรส พญานาคราชกริ้ว โกรธกับการกระทำของเมืองรัตพานครที่ได้กระทำต่อลูกสาวของตน แต่ด้วยความรักที่มี ต่อพระธิดาของตน จึงมารับพระธิดากลับโดยดี แต่ก่อนกลับสู่เมืองบาดาล พญา นาคราชได้ขอเครื่องราชกุฎภัณฑ์ที่เป็นเครื่องประดับยศและสมบัติที่มอบให้พระธิดา เมื่อครั้งแต่งงานคืน แต่พระเจ้าอือลือราชาไม่สามารถคืนได้ เนื่องจากได้นำไปแปรสภาพ เป็นอย่างอื่นแล้ว พญานาคราชกริ้วโกรธมากเพราะธิดาของตนถูกขับไสไล่ส่ง ก็เจ็บใจมากพอแล้ว อีกทั้งยังขอรับเครื่องราชกุฎภัณฑ์ของตนกลับเมืองบาดาลไม่ได้ พญา นาคราชแห่งบาดาลจึงได้ประกาศว่าจะกลับมาพร้อมกับไพร่พลแห่งเมืองบาดาล เพื่อถล่ม เมืองรัตพานครให้สิ้นสภาพความเป็นเมือง หลังจากพญานาคราชกลับเมืองบาดาล ตกใน คืนวันเดียวกันนั้นไพร่พลแห่งพญานาคราช ได้ยกมาถล่มเมืองรัตพานครจนราบคาบ เป็นหน้ากลอง ไม่มีใครรอดพ้นจากฤทธิ์ของนาคได้ จนพื้นดินที่เคยเป็นเมืองรัตพานครในอดีต กลายเป็นผืนน้ำอันเวิ้งว้าง รัตพานครล่มถล่มลง ผู้คนแห่งเมืองล้วนล้มตายเพราะ ความโกรธของพญานาคราช ที่เกิดจากชาวรัตพานครกระทำต่อพระธิดาของตน เนื่องจาก นางนาครินทรานีไม่ทราบว่าพระบิดาจะมาถล่มเมืองรัตพานคร แต่พอทราบภายหลังก็ขึ้น มาตามหาเจ้าชายฟ้าฮุ่ง นางออกตามหาเจ้าชายฟ้าฮุ่งทั่วบึงของหลง ถึงแม่น้ำสงครามแต่ ก็ไม่พบจึงได้กลับเมืองบาดาล เมืองรัตพานครถูกถล่มจนกลายเป็นบึงของหลง และได้กลายมาเป็น “บึงโขงหลง” ในปัจจุบัน จากพื้นดินอันเป็นที่ตั้งของรัตพานคร กลายเป็น เวิ้งน้ำ แต่ในช่วงที่ไพร่พลพญานาคเข้าทำลายเมืองนั้นยังมีวัดที่ตั้งอยู่ในรัตพานครที่ พญานาคราชและไพร่พลไม่ทำลาย เหลือไว้เป็นที่สักการะของผู้คนที่จะมาพบเห็นในกาลต่อไป ซึ่งในกาลต่อมาวัดเหล่านั้นได้เสื่อมสภาพลง กลายเป็นเกาะและป่าขนาดเล็กที่มิได้จม หรือถูกทำลายให้กลายเป็นพื้นน้ำ วัดเหล่านั้นจึงปรากฏเป็นชื่อดอนหรือเกาะ ต่าง ๆในบึงโขงหลงในปัจจุบันดังนี้ วัดแก้วฟ้า หรือวัดดอนแก้ว ปรากฏเป็นดอนแก้วใน ปัจจุบัน วัดโพธิ์สัตว์หรือวัดดอนโพธิ์ มาเป็นดอนโพธิ์ และวัดแดนสวรรค์ กลายเป็นดอนสวรรค์ ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ทำการเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงโขงหลง และสิ่งหนึ่งที่มีชื่อปรากฏ ตามตำนานในปัจจุบันคือ เส้นทางที่พระธิดานาครินทรานีตามหาเจ้าชายฟ้าฮุ่งในเมืองรัตพานครไม่เจอ จึงออกตามหาต่อจากบึงโขงหลง ต่อไปยังน้ำสงคราม เส้นทางดังกล่าว กลายเป็นน้ำเมาที่เชื่อมต่อบึงโขงหลง และน้ำสงคราม ส่วนคำว่าน้ำเมา หรือห้วยน้ำเมา นั่นเป็นเพราะเกิดจากความลุ่มหลงในรักของพระธิดาของพญานาคที่มีต่อเจ้าชายฟ้าฮุ่ง ซึ่งตกอยู่ในอาการที่เรียกว่า มัวเมาในความรักจึงเป็นเส้นทางแม่น้ำที่เรียกว่าน้ำเมา
หมายเหตุ บึงโขงหลงเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ เกิดตามธรรมชาติ มีพื้นที่ประมาณ 11 ตารางกิโลเมตร ปัจจุบันประชาชนรอบ พื้นที่บึงโขงหลงได้ใช้แหล่งน้ำแห่งนี้ ประกอบอาชีพด้านประมง กสิกรรม เกษตรกรรม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น