วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

ตำนานปู่อือลือนาคราช' ศรัทธากลางบึงโขงหลง จ.บึงกาฬ

ข่าวที่ทำให้ผู้คนทั้งประเทศได้รู้จักกับใหม่ของประเทศไทยมากขึ้น ก็คงจะเป็นข่าวที่ว่าพญานาคขึ้นที่บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ เป็นข่าวฮือฮากันทั้งประเทศ เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2554ประชาชนจำนวนมากแห่จับจองพื้นที่ บริเวณบึงโขงหลง จ.บึงกาฬ เพื่อรอดู การปรากฏร่างของพญานาค ตามความฝันของ พ.ต.อ.ชยรพ และได้มีพิธีบวงสรวงพญานาคที่ตำหนักปู่อือลือ
ตำนาน ปู่อือลือที่ข้องเกี่ยวกับบึงโขงหลงบริเวณ แห่งนี้เดิมเป็นที่ตั้งเมือง เมืองชื่อ รัตพานคร มี พระอือลือราชา เป็นผู้ครองนคร มเหสีชื่อ นางแก้วกัลยา มีพระธิดาชื่อ พระนางเขียวคำ ต่อมาได้อภิเษกสมรสกับพระเจ้าสามพันตา มีพระโอรสชื่อ เจ้าชายฟ้ารุ่ง ซึ่งเป็นผู้ที่มีความเฉลียวฉลาด มีความรอบรู้ และมีรูปงามด้วย ขณะประสูตมีท้องฟ้าสว่างไสว ต่อมาได้อภิเษกสมรสกับ นาครินทรานี ซึ่งเป็นพระธิดาของพญานาคราชแห่งเมืองบาดาล ที่แปลงกายเป็นมนุษย์ การอภิเษกสมรสจัดกันอย่างมโหฬาร ทั้งเมืองบาดาล และเมืองมนุษย์ (รัตพานคร) ทำอยู่ 7 วัน 7 คืน เพื่อเป็นการสัมพันธไมตรีระหว่างพญานาคราช กับ พระเจ้าอือลือราชา ในโอกาสนี้ด้วย
ทั้งสองอยู่กินกันมาเป็นเวลา 3 ปี ก็ไม่สามารถจะมีผู้สืบสายสกุลได้ (เพราะธาตุมนุษย์กับนาค) จึงทำให้เกิดความเศร้าโศกใจกับคนทั้งสอง ต่อมาทำให้เจ้าหญิงนาครินทรานี ล้มป่วยลง ทำให้ร่างกายของนางที่เป็นมนุษย์กลายเป็นนาคตามเดิม เมื่อข่าวนี้ได้แพร่สะบัดออกไปทั่วกรุงรัตพานคร และถึงแม้นางจะร่ายมนต์กลับเป็นมนุษย์ประชาชนและพระเจ้าอือลือก็ไม่พอใจ จึงได้ขับไล่นางนาครินทรานีกลับสู่เมืองบาดาลดังเดิม โดยได้แจ้งให้พญานาคราชมารับตัวกลับ ก่อนกลับพญานาคราช ได้ขอเครื่องกฎภัณฑ์ของตระกูลคืน แต่พระเจ้าอือลือราชาไม่สามารถคืนให้ได้ เนื่องจากนำไปแปรสภาพเป็นอย่างอื่น ทำให้พญานาคราชกริ้วมาก และประกาศว่าจะทำลายเมืองรัตพานคร และจะเหลือเอาไว้เพียง 3 วัดเท่านั้น
หลัง จากพญานาคกลับไป ในตอนกลางคืน พญานาคราชได้ยกพลไพร่มาถล่มเมืองรัตพานคร และประชาชนก็ไม่มีใครรอดพ้นจากฤทธิ์นาคได้ พอนางนาครินทรานีทราบข่าว ก็ขึ้นมาตามหาเจ้าชายฟ้ารุ่ง จนถึงแม่น้ำสงครามก็ไม่พบ จึงกลับเมืองบาดาล เมืองรัตพานครได้ถล่มเป็น "บึงหลงของ" ต่อมานานเข้าคำพูดก็กลายเป็นของหลง และวัดที่เหลือ 3 วัด ก็คือ วัดดอนแก้ว (วัดแก้วฟ้า) วันดอนโพธิ์ (วัดโพธิ์สัตว์) และ วัดดอนสวรรค์ (วัดแดนสวรรค์) ทางที่นางนาครินทรานีตามหาเจ้าชายฟ้ารุ่ง คือ ห้วยน้ำเมา (เมารัก)
ส่วนพระอือลือราชา ไม่ได้สิ้นพระชนม์ไปกับเหตุการณ์นี้ด้วย แต่ถูกพระยานาคราชจับตัวไว้ พร้อมกับสาปให้พระอือลือราชากลายร่างเป็นนาค เฝ้าอยู่ในบึงโขงหลงชั่วนิรันดร์ จนกว่าจะมีเมืองเกิดใหม่ในดินแดนแห่งนี้ จึงจะล้างคำสาปของพระยานาคราชได้
พญานาคที่ทำจากผ้า ลักษณะการเย็บคล้ายการเย็บบายศรี
เรื่องเล่าจากจ้ำ
เราเปิดประเด็นคำถามเรื่องราวความเป็นมา พญานาคปู่อือลือ คุณยายวรรณาวัย 85 ปี จ้ำ(ผู้ดูแลศาล)เล่าว่า ปู่อือลือท่านมีมานานแล้ว ไม่ได้เพิ่งมีหรือเพิ่งบูชาขึ้นเมื่อมีข่าวดังเมื่อปี 2554 ที่ผ่านมา ปู่อือลือเป็นตำนานของการก่อกำเนิดบึงโขงหลง เป็นพญานาคที่คอยปกปักษ์รักษาบึงและชาวบ้านที่ใช้บึงแห่งนี้เป็นแหล่งทำมาหากิน ซึ่งที่ผ่านมาชาวบ้านมักจะบนบานศาลกล่าวหรือขอพรจากท่านให้แคล้วคลาดปลอดภัยทุกครั้งที่ออกไปหาปลาในบึง หรือแม้แต่เรื่องหน้าที่การงาน เรื่องต่างๆเพื่อให้สมปรารถนา เวลาที่มีทุกข์ทางใจ ที่ศาลปู่อือลือแห่งนี้ก็นับเป็นที่พึ่งทางใจเลย
แม่มนัสเล่าประสบการณ์ที่ได้ประสบพบเจอพญานาค
คุณแม่มนัส(ลูกสาวคุณยายวรรณา)เล่าเหตุการณ์ที่ได้ประสบพบเจอกับตัวเอง คือ แกนั่งเรือล่องไปในบึงโขงหลงไปด้วยกัน 5 คน ตอนนั้นเวลาประมาณ 5 โมงเย็น แกบอกว่าวันนั้นบรรยากาศโดยรอบนิ่ง เงียบ อยู่ดีดีก็ได้ยินเสียงน้ำดังขึ้นข้างเรือทุกคนหันไปมอง เห็นเป็นเหมือนงูใหญ่ลอยอยู่ข้างเรือ ขนาดตัวใหญ่มาก และลำตัวยาวกว่าเรือ เห็นกับตาชัดมาก ลำตัวสีเขียวออกดำ ตามลำตัวมีเกร็ด ทุกคนที่เห็นต่างมีอาการเหมือนกันหมดคือตาค้าง ตกใจกับสิ่งที่เจอ บางคนร้องไห้ น้ำหูน้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว บางคนร้องโหวกเหวกไม่หยุด แม่มนัสบอกตอนนั้นพยายามตั้งสติ พนมมือไหว้เพราะเชื่อมากว่าท่านคือพญานาค แม่นัสบอกว่าแม่มัสเชื่อเพราะประสบกับตัวเอง นอกจากนั้นยังมีเรื่องราวแปลกๆ หรือภินิหารของปู่อือลือส่วนใหญ่ ที่ชาวบ้านพบเจอและก็เล่าต่อกันมา จนเป็นเรื่องราวเล่าขาน และ เมื่อไม่นานมานี้ มีชาวบ้านที่แถบบึงโขงหลงนอนไปแล้วตายเนื่องจากหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ส่งไปโรงพยาบาลหมอก็บอกว่าสิ้นใจแล้ว ญาติของเขาจึงมาบนขอที่ศาลปู่อือลือให้เขาฟื้นคืนมา พอเอาศพมาถึงบ้านอยู่ดีดีเขาก็ฟื้นขึ้นมา ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ต่างตกใจแตกตื่นกับสิ่งที่เกิดขึ้น เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับชาวบึงโขงหลงถึงสองครั้งแล้ว 
ขณะที่คนหาปลากำลังล่องเรืออยู่กลางบึง อยู่ๆ ทางข้างหน้าก็มีหมอกควัน พอเรื่อแล่นเข้าไปในกลุ่มควันก็เหมือนกับไปโผล่ในเมืองๆ หนึ่งที่มีสภาพไม่เหมือนโลกมนุษย์ปัจจุบัน จนกระทั่งควันหายไปเรือก็มาเกยฝั่ง สร้างความฉงนให้กับคนหาปลาผู้นั้นเป็นอย่างมาก จนทุกวันนี้ยังไม่มีใครอธิบายได้ว่านั่นคือที่ไหน
นอกจากนี้ยังมีบ่อยครั้งที่ปู่อือลือคอยช่วยเหลือชาวบ้านที่ออกไปหาปลาให้รอดพ้นจากพายุฝนที่โหมกระหน่ำและกลับเข้าฝั่งได้อย่างปลอดภัย เล่ากันว่ามีเรือหาปลาของชาวประมงคนหนึ่งเจอเข้ากับพายุฝน ลมกรรโชกแรงจนเรือเกือบจะล่ม แต่จู่ๆ ก็เกิดปาฏิหารย์เหมือนกับมีบางอย่างมาหนุนเรือไว้และพากลับเข้าฝั่งอย่างน่าอัศจรรย์ สิ่งแรกที่เขานึกถึงคงไม่พ้นปู่อือลือมาช่วยเป็นแน่ และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเขาก็กราบไหว้บูชาปู่อือลือมาตลอด
หลายเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ชาวบึงโขงหลง จ.บึงกาฬ ต่างศรัทธาพญาปู่อือลือ คุณยายวรรณาบอกว่า หากใครที่ไม่เชื่อ แต่คิดจะมาบนบานเล่นๆที่ศาลนี้อย่ามา เพราะถ้าหากใครที่ไม่เชื่อและมาล้อเล่นอาจจะมีอันเป็นไปได้ ไม่เชื่อ อย่าลบหลู่ คำนี้มีความหมายเสมอ

ข้อมูลจาก :POCKET BOOK เตร็ดเตร่ที่ 77  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น