วันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

หลวงปู่ชอบ ฐานสโม นิมิตเห็นพญานาคสองผัวเมียลำตัวเท่าต้นมะพร้าวที่ฝั่งลาว

จากประวัติของหลวงปู่บุญพิน กตปุญโญ ในพรรษาที่ ๕ พ.ศ. ๒๕๐๒ ท่านพำนักจำพรรษาที่วัดป่านิโครธาราม บ้านหนองบัวบาน จังหวัดอุดรธานี พอออกพรรษาจึงกราบลา หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ เพื่อออกเดินทางตามหา หลวงปู่ชอบ ฐานสโม โดยตามไปที่วัดถ้ำผาบิ้ง จังหวัดเลย แต่ไม่เจอ จึงไปวัดถ้ำผาปู่ เจอ หลวงปู่หลุย จันทสาโร กราบเรียนถามหลวงปู่หลุย พอดีหลวงปู่หลุยจะไปหาหลวงปู่ชอบที่ฝั่งลาว หลวงปู่บุญพินจึงได้ติดตามไปพร้อมกับหลวงปู่หลุย แล้วพบกับหลวงปู่ชอบที่เมืองลาว และตั้งใจจำพรรษาที่เมืองลาว 

แต่ระยะนี้เหตุการณ์บ้านเมืองในประเทศลาวไม่สงบ ทหารลาวไม่ให้พัก หลวงปู่ชอบจึงให้หลวงปู่บุญพิน กตปุญโญ กับ พระอาจารย์บัวคำ มหาวีโร เดินธุดงค์มาพักที่บ้านนายาว หมู่บ้านนี้เป็นบ้านร้างมีอยู่ ๕ หลังคาเรือน ระหว่างพักที่บ้านนี้ช่วงกลางคืนจะมีฝูงช้างผ่านมาทุกคืน และมีเสือร้องอยู่ใกล้ที่พัก มีคืนหนึ่งช้างหลงฝูงเข้ามาที่พักตัวหนึ่งไม่ยอมไป พระอาจารย์บัวคำจึงได้ออกมาจุดไฟไล่ พอช้างได้กลิ่นควันไฟก็หนีไป หลวงปู่บุญพินพักที่บ้านนายาวนี้ประมาณ ๑ เดือน จึงได้กลับไปหาหลวงปู่หลุยกับหลวงปู่ชอบ จากนั้นหลวงปู่ชอบได้พาธุดงค์ขึ้นไปทางเหนือ ไปพักที่บ้านน้ำมี่ ถ้ำผาร่มพร้าว ในถ้ำนี้จะมีพระพุทธรูปโบราณมากมายจนหาที่นอนไม่ได้ เวลาจะนอนต้องใช้มือกวาดพระพุทธรูปออกก่อนแล้วจึงค่อยนอนได้ ขณะที่พักอยู่ในถ้ำแห่งนี้ หลวงปู่บุญพินได้ทำข้อวัตรปฏิบัติและทำสมาธิภาวนาตลอดทั้งวันทั้งคืน
 

เช้าวันหนึ่งขณะนำน้ำล้างหน้าและยาสีฟันถวายหลวงปู่ชอบ ท่านได้ถามว่า “เมื่อคืนนี้ท่านได้นิมิตอะไรไหม” 

หลวงปู่บุญพินตอบว่า “กระผมไม่ได้นิมิตอะไรเลยขอรับ กระผมก็เหมือนคนตาบอดนี่เอง” 

หลวงปู่ชอบจึงพูดว่า เมื่อคืนนี้ได้นิมิตเห็นพญานาคสองผัวเมียลำตัวเท่าต้นมะพร้าว หัวพญานาคมาพาดที่ก้อนหินในถ้ำนี้ ส่วนหางนั้นอยู่ที่แม่น้ำโขง ตัวใหญ่มาก 

หลวงปู่บุญพินเลยถามหลวงปู่ชอบว่า “หัวของพญานาค เหมือนที่เขาเขียนในรูปไหมขอรับ” 

หลวงปู่ชอบตอบ “ก็เหมือนกับในรูปนั้นแหละ”

หลวงปู่บุญพินถาม “แล้วเขาขึ้นมาทำไมขอรับ” 

หลวงปู่ชอบตอบ “พญานาคขึ้นมากราบหลวงปู่เพราะมีความศรัทธาเลื่อมใส และได้เทศนาศีล ๕ ให้พญานาคฟัง” จากนั้นหลวงปู่ชอบได้ถามพญานาคว่า “ในใต้บาดาลมีแสงอาทิตย์ไหม” 

พญานาคตอบว่า ในใต้บาดาลไม่มีแสงอาทิตย์ แต่มีแสงแก้วสว่างไสวตลอดทั้งกลางวันกลางคืน พอหลวงปู่ชอบถามเสร็จ พญานาคก็กราบลา 

เวลาพญานาคจะไปไม่เหมือนกับงู จะค่อยๆ ถอยหลังไหลลงแม่น้ำโขงแล้วหายไปเลย พอคืนต่อมา พญานาคได้ขึ้นมาหาหลวงปู่ชอบอีก ท่านได้เล่าให้หลวงปู่บุญพินฟังว่า เมื่อคืนนี้พญานาคขึ้นมาหาเหมือนคืนก่อน แต่คืนนี้เขาแปลงกายเป็นมนุษย์ผู้ชายกับผู้หญิง แต่งตัวเหมือนพระราชา ผู้ชายใช้ผ้าแดงคาดหัว ขึ้นมากราบหลวงปู่ชอบ หลวงปู่ชอบเลยถามว่า “พวกท่านมาจากไหน” 

พญานาคสองผัวเมียตอบว่า “คืนก่อนยังมากราบหลวงปู่เลย”

หลวงปู่ชอบถาม “แล้วคืนนี้ทำไมพวกท่านเป็นมนุษย์มา” 

พญานาคตอบ พวกกระผมเป็นพญานาคมีอิทธิฤทธิ์สามารถแปลงกายเป็นอะไรก็ได้ 

หลวงปู่ชอบถาม “สาเหตุที่ท่านเป็นพญานาคมาอาศัยอยู่ในบาดาลใต้ถ้ำนี้ เพราะเหตุอะไร” 

พญานาคตอบ “เมื่อชาติก่อนพวกกระผมมีบ้านอยู่ใกล้ถ้ำนี้ แล้วถ้ำนี้ก็เป็นวัด และได้นำเอาเสียม เอาจอบ เอามีดของวัดไปใช้แล้วไม่ได้ส่งคืน ถือเอาเป็นของเจ้าของ พอตายไปกรรมนั้นเลยให้ผลมาเกิดเป็นพญานาค เพื่อชดใช้กรรมที่ได้ก่อไว้ใต้บาดาลใต้แม่น้ำโขงนี้” ต่อจากนั้นหลวงปู่ชอบได้เทศนาอบรมให้รักษาศีลให้ตั้งอยู่ในธรรม พอหลวงปู่ชอบเทศนาเสร็จ พญานาคได้กราบลาหลวงปู่ชอบกลับไป 

มีวันหนึ่งหลวงปู่ชอบได้เตือนพระเณรว่า เวลาล้างบาตรอย่าเอาน้ำล้างบาตรสาดลงไปในฝั่งแม่น้ำ เช้าวันนั้นออกบิณฑบาตได้ข้าวปลาแห้งจำนวนมาก พอกลับถึงวัด หลวงปู่บุญพินให้เณรเอาไม้ไผ่มาหลาม คือเอาน้ำ ผัก ปลา ใส่ลงไปในกระบอกไม้ไผ่แล้วนำไปตั้งไฟ พอเสร็จแล้วนำมาถวายหลวงปู่หลุยและหลวงปู่ชอบ พอฉันเสร็จหลวงปู่บุญพินได้นำบาตรไปล้างที่ท่าน้ำ และได้เห็นฝูงปลาเยอะแยะจึงพากันสาดข้าวให้ปลากิน พอล้างบาตรเสร็จกลับขึ้นมาในถ้ำ ขณะเช็ดบาตรได้ยินเสียงดังสนั่นในริมฝั่งน้ำ จากนั้นหลวงปู่หลุย หลวงปู่ชอบ หลวงปู่บุญพิน พร้อมพระเณรได้ออกมาดู เห็นริมฝั่งแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นชายหาดพังทลายลงเหมือนกับใช้รถดันชายฝั่งเสียงสนั่นหวั่นไหว 

ขณะที่ยืนดูอยู่นั้นหลวงปู่ชอบได้กล่าวขึ้นว่า “ใครทำอะไรในท่าน้ำนั้น”
 

หลวงปู่บุญพินตอบ “พวกกระผมพระเณรได้ไปล้างบาตร ได้เห็นฝูงปลาก็เลยสาดข้าวก้นบาตรให้มันกิน” 

หลวงปู่ชอบจึงกล่าวว่า ในสถานที่นี้เป็นที่อาศัยของพญานาค แล้วพวกนี้ไม่ชอบสกปรก ในเมื่อพระเณรได้ทำสกปรกลงไปในน้ำ พวกเขาเลยโกรธ เขาเลยแสดงอภินิหารให้ดู


จากนั้นหลวงปู่ชอบก็เดินไปริมฝั่งแม่น้ำโขง แล้วยืนกำหนดจิตชั่วระยะหนึ่งเหตุการณ์ก็สงบลงเป็นปกติ หลวงปู่ชอบก็บอกพระเณรให้เก็บบริขารเพื่อกลับมาวัดศรีพนมมาศ อำเภอเชียงคาน ออกจากอำเภอเชียงคานมาเมืองเลย หลวงปู่ชอบบอกให้หลวงปู่บุญพินไปพักที่วัดป่าอัมพวัน บ้านไร่ม่วง ตำบลน้ำหมาน อำเภอเมือง จังหวัดเลย เพราะหลวงปู่ชอบกับหลวงปู่ซามา อาจุตฺโต จะไปโคราช ต่อมาหลวงปู่บุญพินได้จากวัดป่าอัมพวันไปพำนักจำพรรษาที่วัดป่าม่วงไข่ ตำบลสานตม อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย กับ หลวงปู่ลี กุสลธโร

ก่อนเข้าพรรษา หลวงปู่ลี กุสลธโร พาเที่ยวธุดงค์จนถึงเดือน ๕ แล้วย้อนกลับมาพักที่บ้านไร่ม่วงอีก จนสงกรานต์เสร็จ จึงไปหาหลวงปู่ชอบที่บ้านโคกมน ที่วัดถ้ำผาดิน ที่บ้านนี้ชาวบ้านอยากสร้างวัด ผู้ใหญ่ถันพร้อมกับชาวบ้านได้กราบปรึกษาหลวงปู่ชอบ หลวงปู่ชอบจึงให้หาที่ ชาวบ้านเลยถวายที่ให้หลวงปู่ชอบสร้างวัด หลวงปู่บุญพินเล่าว่าชาวบ้านโคกมนนี้ ชาวบ้านแบ่งแยกเป็นหลายฝ่าย ส่วนมากนับถือผีปู่ตา มีวันหนึ่งหลวงปู่ชอบให้ผู้ใหญ่บ้านไปประกาศให้ชาวบ้านมารับไตรสรณคมน์ ชาวบ้านส่วนหนึ่งไม่ยอมรับเพราะชาวบ้านนับถือผีปู่ตา 

วันหนึ่งหลวงปู่ชอบให้ผู้ใหญ่บ้านไปชักชวนคนเหล่านั้นอีก ถ้าไม่มาจะมีเหตุร้ายเกิดขึ้น ชาวบ้านจึงพากันไปรับไตรสรณคมน์พร้อมกันทั้งหมด ต่อมาหลวงปู่ชอบพาหลวงปู่บุญพินกับพระเณร พร้อมด้วยชาวบ้าน ไปรื้อศาลปู่ตา พอไปถึงหลวงปู่ชอบได้กล่าวว่า ต่อไปนี้ชาวบ้านจะไม่ถือผีปู่ตาอีก และขอให้สิ่งที่สิงสถิตย์ในที่นี้ได้ออกไปเสีย จากนั้นหลวงปู่ชอบจึงบอกให้ชาวบ้านรื้อศาลผีปู่ตา แต่ไม่มีใครกล้ารื้อ หลวงปู่ชอบเลยให้หลวงปู่บุญพินกับพระเณรเป็นคนรื้อก่อน พอชาวบ้านเห็นดังนั้นก็เลยเข้าไปรื้อช่วย แล้วได้นำไม้ที่รื้อไปทำถาน (ส้วม) สำหรับพระเณรใช้ หลังจากรื้อศาลผีปู่ตาแล้วก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น 

ในพรรษาที่ ๖ พ.ศ. ๒๕๐๓ หลวงปู่บุญพิน กตปุญฺโญ ท่านพำนักจำพรรษาที่วัดป่าสัมมานุสรณ์ (วัดเหนือ) บ้านโคกมน จังหวัดเลย กับ หลวงปู่ชอบ ฐานสโม ในระหว่างพรรษาได้ฟังธรรมจากหลวงปู่ชอบ และได้ตั้งใจทำสมาธิภาวนาตลอดพรรษา วันหนึ่งหลวงปู่ชอบกล่าวกับหลวงปู่บุญพินว่า ในคืนนั้นท่านได้นิมิตเห็นเทพทั้งหลายมากมายมาหาท่าน เทพทั้งหลายแบ่งเป็นชั้นๆ มีชั้นสูง ชั้นกลาง และชั้นต่ำ

หลวงปู่ชอบจึงกำหนดจิตถามเทพทั้งหลายว่า “พวกท่านมาหาเราทำไม” 

เทพทั้งหลายได้ตอบหลวงปู่ชอบว่า “พวกเราได้ลงมากราบหลวงปู่และอนุโมทนาในการสร้างวัดในครั้งนี้” แล้วก็จากไป ต่อจากนั้นหลวงปู่ชอบได้แก้นิมิตให้หลวงปู่บุญพินฟังว่า ต่อไปวัดป่าสัมมานุสรณ์ (วัดเหนือ) แห่งนี้จะมีความเจริญรุ่งเรือง และจะมีคณะศรัทธาญาติโยมจากทั่วทุกสารทิศมาทำบุญ
 

รูปภาพ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น